นักศึกษาโบราณคดีวิทยา มึนตรรกะ ‘รถไฟคุ้มกว่าเจดีย์’ เชื่อมมรดกโลก

ช่วงวันที่ เดือนพฤษภาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สโมสรนิสิตเก่าภาควิชาโบราณคดีวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดทริปพิเศษเพื่อวิชาความรู้เกี่ยวเนื่องกับแหล่งโบราณคดีวิทยา

การศึกษา ในเขตเมืองอโยธยา ซึ่งเป็นทางที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงจะพิงผ่าน (ย้อนอ่าน หลากความคิดเห็น หนุนไม่หนุน’ รถไฟฟ้าความเร็วสูง กึ่งกลางมรดกโลก อยุธยา’) ทางเริ่มจาก วัดพนัญเชิงรำไพหารวัดใหญ่ชัยมงคลวัดสมที่โกฏฐาราม, วัดกุฏิดาววัดโหยงเหยงคณ์, วัดอโยธยา รวมทั้งวัดวิหารขาว เป็นลำดับ โดยมีผู้กล่าวบรรยาย อย่างเช่น นายสุจิตต์ วงษ์เทศ ผู้จัดตั้งวารสารศิลปวัฒธรรมรศ.ดร.เจริญก้าวหน้า ภิรมย์เกื้อกูล คุณครูสาขาวิชาประวัติศาสตร์ ภาควิชามนุษยศาสตร์ มัธยมรามคำแหง และก็ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิพรรธน์ กระแจะจันทร์ คุณครูคณะศิลปศาสตร์ มัธยมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักข่าวสำรวจความคิดเห็นของผู้ร่วมทริปดังที่กล่าวถึงมาแล้ว โดย นายขว้างรมี ขว้างลียะ นิสิตภาควิชาโบราณคดีวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร อายุ 20 ปี บอกว่า ตนก็เป็นคนอยุธยาคนหนึ่งที่อยากที่จะให้มีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเหมือนกัน แต่ว่าสิ่งที่เป็นปัญหาก็คือการรถไฟมัวแต่ความสบายของเขาไว้ก่อน โน่นเป็นกระบวนการทำทับรางเดิมไปเลย ถึงแม้ว่ารางเดิมเองก็มีปัญหา 

นักศึกษาโบราณคดีวิทยา มึนตรรกะ ‘รถไฟคุ้มกว่าเจดีย์’ เชื่อมมรดกโลก

ในช่วงเวลานี้เท่าที่คุยกับฝั่งส่งเสริม เขาก็ไม่รู้เรื่องสิ่งที่พวกเรากำลังเรียกร้อง ว่าพวกเรามิได้ไม่อยากที่จะให้มีรถไฟ 

แม้กระนั้นต้องการที่จะให้รถไฟย้ายออกไปเส้นอื่น เสมือนมันกลัดกระดุมไม่ถูกตั้งแต่ต้น ข่าวการศึกษา เพราะเหตุไรถึงไม่ทำ EIA รวมทั้ง HIA ตั้งแต่ทีแรก ในเวลานี้เสมือนมารีบสร้าง แล้วก็โคนตรงบางปะอินก็เริ่มสร้างแล้ว ยังมิได้หยุดสร้าง ราวกับเขากำลังบีบคั้นให้รับไปเหอะ โบราณสถานไม่พังทลายหรอก ในตอนนี้ได้มีการปลุกระดมในโซเชียลว่ารถไฟคุ้มกว่าพวกเจดีย์ วัดร้าง แถวนี้ เพราะเหตุว่าไม่ค่อยมีคนมาท่องเที่ยวกัน ไม่ค่อยมีคุณค่า ซึ่งเป็นการดูในกรอบของการพัฒนาเมืองยุคใหม่สิ่งเดียว มิได้มองดูถึงความยืนยงในอนาคต ก็เลยเป็นแรงกระตุ้นให้ต้องการออกมาแผดเสียงเรียกร้องให้การรถไฟพอใจใจความสำคัญที่ตรงนี้ ไม่ใช่ย้ำเอาสบายของตนไว้ก่อน ตรรกะเวลานี้มันไปถึงกับขนาดที่ว่าเจดีย์ไม่มีค่าอย่างรถไฟแล้ว เขาใช้คำบอกเล่าว่า เจดีย์เก่าๆนี้สร้างคุณค่าให้เศรษฐกิจไม่พอๆกับที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงจะมา เขามองดูที่จำนวนเงิน มิได้มองดูค่าของความเป็นเมืองเก่า” นายขว้างรมีกล่าว (อ่านข่าวสาร เยาวชนเห็นใจ อยุธยา’ จะสร้างไฮสปีดฯ ทับมรดกโลก ไม่เคยถามอายแทนชาวไทย ขนาดฝรั่งยังปรารถนาดี)

แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ‘ดรุณวรรณ’ ยกสร้างคนด้วยการเรียนรู้หมายถึง’DNA ประชาธิปัตย์’

‘ดรุณวรรณ’ ยกสร้างคนด้วยการเรียนรู้หมายถึง’DNA ประชาธิปัตย์’

‘ดรุณวรรณ’ โชว์วิชั่นเวทีแสดงแนวทางการเรียนรู้ แผนกวิศวะ จุฬาฯ ยกสร้างคนด้วยการเล่าเรียนเป็น‘DNA ประชาธิปัตย์‘ พร้อมเดินหน้า สู้หลักการเรียนฟรีปริญญษตรี สาขาที่ตลาดอยากได้

การศึกษา นางเด็กหนุ่มชาติชั้นวรรณะ ชาญพิพัฒนชัย รองผู้ประกาศพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นผู้แทนพรรคขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านแผนการการศึกษาเล่าเรียนของพรรคในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงมือณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ 26 เม.ย. 2566 โดยยกที่มีความสำคัญในการรบ สร้างเงิน– สร้างคน– สร้างชาติ ที่จำเป็นต้องเริ่มจากสร้างคน เพื่อไปสร้างเงิน รวมทั้งสร้างชาติ นางหนุ่มน้อยชาติชั้นวรรณะ เริ่มด้วยการตอกย้ำซ้ำเติมว่าการสร้างคนเป็น “DNA ของพรรคประชาธิปัตย์” เป็นการวางรากฐานการเล่าเรียนด้วยการผลิตรากแก้ว ทำให้เป็นไม้ยืนต้น อยู่รอดได้หากแม้จะต้องพบเจอกับความเคลื่อนไหว 7 จุดหมายปรับปรุงเด็กรวมทั้งเยาวชน โดยพรรคประชาธิปัตย์มีเป้าหมายปรับปรุงเด็กรวมทั้งเยาวชนให้มีคุณสมบัติที่ดี ประการเป็นสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงมีความดีงาม มีวินัยแล้วก็จิตสาธารณะ มีความถนัดการคิดพินิจพิจารณา ความถนัดภาษา ความสามารถชีวิต แล้วก็ความถนัดการใช้เทคโนโลยี ดังนี้ปชป.ได้ให้ความใส่ใจทางการศึกษามาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่พรรคได้ได้โอกาสบริหารที่กระทรวงศึกษาธิการ ผลงานทางการศึกษาของพรรค ฯ มีความเด่นรวมทั้งได้ปฏิบัติงานมาแล้วหลายหลักการ และก็เอามาสู่การขยายผลต่อยอดในตอนนี้ อาทิเช่น เริ่มโครงงานข้าวกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา แนวทางนมสถานศึกษาฟรี เริ่มต้น ระดับชั้นอนุบาล กองทุนเงินให้กู้เงินเพื่อการเรียนรู้ (กตำแหน่ง.)

'ดรุณวรรณ' ยกสร้างคนด้วยการเรียนรู้หมายถึง'DNA ประชาธิปัตย์’

ขยายการเล่าเรียนขั้นต้นไม่น้อยกว่า 12 ปี เรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ คนไม่สมประกอบเรียนฟรีตั้งแต่อนุบาล จนกระทั่งปริญญาตรี

ส่วนผลงานในขณะนี้ที่พรรคได้ได้โอกาสบริหารกระทรวงเรียนรู้ โดยมี ดร.คุณหญิงกัลยาณี ข่าวการศึกษา งามพนิช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ผลักดันแนวทางที่เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมหลายด้าน รองรับความเคลื่อนไหวภายใต้การความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และก็ของใหม่ของโลก ทำให้โลกมีการเปลี่ยนอย่างเร็ว และก็จำเป็นต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของโลกโดยการผลิตภูมิต้านทานให้เด็กไทยด้วยวิทยาศาสตร์และก็ CODING ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์การปรับปรุงการเรียนรู้โดยตรงถึงเยาวชนไทยโดยบูรณาการการขับเขยื้อนสั่งแนวนโยบายสู่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวโยง เพื่อส่งเสริมการศึกษาการสอนในแนวทางที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการคิดพินิจพิจารณาและก็สร้างความชำนาญ เพื่อไปใช้สำหรับการดำรงชีพอย่างมีเหตุผล คิดเป็นขั้นเป็นตอน จัดแจงคนสำหรับศตวรรษที่ 21 อย่างรู้ทันดิจิทัล รวมทั้งได้เริ่มการศึกษาการสอน CODING มาตั้งแต่เทอมลำดับที่สองของปีการศึกษา 2562 และอบรมครูไปๆมาๆกกว่า 400,000 คน และก็ได้ขยายผลไปยังภาคส่วนต่างๆภายใต้แนวความคิด CODING for All รวมทั้ง All for CODING ยิ่งไปกว่านี้ยังได้ดำเนินแผนการ คนละเครื่อง พี่แบ่งให้….น้องได้เรียน” เพื่อหาเครื่องใช้ไม้สอย Smart Devices ช่วยลดความแตกต่างด้านการศึกษา เป็นแหล่งทำความเข้าใจ และก็สร้างภูมิต้านทานทางดิจิทัลให้กับเด็กไทยซึ่งนับว่าเป็นอนาคตของชาติ โดยได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ส.ค. 2565 เพื่อดำเนินงานขับแผนการรับบริจาคเพื่อส่งเสริมเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับใช้สำหรับการเรียนของเด็กนักเรียนมีฐานะยากจนข้นแค้นรวมทั้งขาดอุปกรณ์การเรียน ที่มีกว่า 1.4 ล้านคนทั้งประเทศ

แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : “ตรีนุช” ติดตามเปิดเทอม-แก้หนี้สินอาจารย์ ย้ำแม่พิมพ์ควรมีค่าตอบแทนรายเดือน

“ตรีนุช” ติดตามเปิดเทอม-แก้หนี้สินอาจารย์ ย้ำแม่พิมพ์ควรมีค่าตอบแทนรายเดือน

ตอนวันที่ 19 เม.ย. นางสาวตรีนุช เทียนทองคำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เผยคราวหลังการสัมมนาประธานหน่วยงานหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) 

การศึกษา ว่า ตนได้ติดตามงานแนวทางการเล่าเรียนหัวข้อต่างว่ามีการปฏิบัติการก้าวหน้าไปถึงไหนบ้างแล้ว หรือแนวทางใดมีข้อขัดข้องปัญหาใดบ้าง ซึ่งเท่าที่ประธานแต่ละหน่วยงานหลักได้รายงานพบว่าการขับเขยื้อนการเรียนจัดว่าทุกหน่วยงานทำเป็นดี ด้วยเหตุนี้ มีความคิดว่าตนอาจไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลกับเรื่องใดเป็นพิเศษแม้ว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา โดยต้องการที่จะให้สืบต่อหลักการลดความแตกต่างด้านการศึกษา เพราะว่านับว่าเป็นแนวนโยบายที่สร้างความเสมอภาคให้เกิดขึ้นกับเด็กแล้วก็เยาวชนทุกคน ยิ่งกว่านั้น ห้องประชุมยังได้ติดตามการจัดทำประชาพิจารณ์ร่างกฎระเบียบเกี่ยวกับหลักการการจัดผลประโยชน์ด้านในเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของพนักงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งร่างกฎระเบียบดังที่กล่าวมาแล้วเป็นร่างกฎระเบียบที่เชื่อมโยงกับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้อาจารย์และก็พนักงานด้านการศึกษาที่อยากให้คุณครูมีเงินเดือนเหลือสุทธิข้างหลังหักใช้หนี้ใช้สินไม่น้อยกว่าจำนวนร้อยละ 30 โดยการจัดทำร่างระเบียบปฏิบัติฉบับดังที่กล่าวถึงมาแล้วต้องการที่จะให้มีแนวปฏิบัติออกมากระจ่าง เนื่องจากว่าถ้าเกิดเป็นการสั่งโดยที่ไม่มีระเบียบรองรับอาจจะเป็นผลให้หน่วยงานที่เป็นผู้ปฏิบัติไม่กล้าที่จะปฏิบัติงานอะไร 

“ตรีนุช” ติดตามเปิดเทอม-แก้หนี้สินอาจารย์ ย้ำแม่พิมพ์ควรมีค่าตอบแทนรายเดือน

ดังนี้คาดว่าร่างกฎระเบียบกล่าวถึงหลักการการจัดผลประโยชน์ด้านในเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของเจ้าหน้าที่ในสังกัดศธ.จะจัดการสำเร็จในเร็วๆนี้ 

แล้วก็หลังจากนั้นจะทำให้เกิดการกระทำโดยสถานีแก้หนี้สินคุณครูถัดไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ข่าวการศึกษา นอกจากนั้นที่ทำการคณะกรรมการการเรียนรู้ขั้นต้น (สพฐ.) ยังได้รายงานการเตรียมความพร้อมเปิดเทอมที่ ปีการศึกษา 2566 ซึ่ง สพฐ.จะมีการจัดสัมมนาผู้อำนวยการที่ทำการ เขตพื้นที่การศึกษาเล่าเรียน (สพท.เพื่ออธิบายการเตรียมความพร้อมเปิดเทอมใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่ง สพฐ.รับรองว่าเด็กทุกคนมีที่เรียนและก็ภาพรวมการรับเด็กนักเรียนในปีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนข้อความสำคัญที่ในตอนนี้มีการระบาดของเชื้อไวรัสวัวโรนาสาชนิดใหม่จากอินเดียแล้วก็อาการโรคออกจะร้ายแรง ซึ่งมีคนประเทศไทยติดแล้ว รายนั้น ประเด็นนี้ ศธ.มิได้นิ่งดูดายได้มอนิเตอร์ข้อมูลวัววิดสายพันธุ์ใหม่ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อยู่ทุก 1 วัน โดยเหตุนั้น ขอให้โรงเรียนทุกหย่อมหญ้าขอให้ยึดวิธีการป้องกันวัววิดจากที่เคยมีการจัดการมาก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับเพื่อการฉีดยาเพิ่มโดสนั้นจะให้ สธ.เป็นผู้บอกข้อมูลว่าโรงเรียนต้องปฏิบัติการเอาอย่างไรบ้าง

แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : รายงานการเรียน : ‘ฟู้ด ฟอร์ กู๊ด’ เติมเต็มโภชนา เด็กไทยในพื้นที่ไกลห่าง

รายงานการเรียน : ‘ฟู้ด ฟอร์ กู๊ด’ เติมเต็มโภชนา เด็กไทยในพื้นที่ไกลห่าง

เมื่อเร็วๆนี้ แบงค์ยูโอบี เมืองไทย และก็ โครงงานฟู้ด ฟอร์ กู๊ด (FOOD FOR GOOD) โดย มูลนิธิยุยงวพัฒน์ ด้วยกันสนับสนุนโภชนาการที่ดีให้เด็กไทยในพื้นที่ไกลห่าง รอบๆทางภาคเหนือของเมืองไทย

การศึกษา โดยแบงค์ได้ระดมทุนช่วยเหลือการเติมเต็มมื้อของกินให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักโภชนาการ ให้แก่สถานที่เรียนขนาดเล็ก รวมทั้งขนาดกึ่งกลาง ที่ ใน จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็ จังหวัดจังหวัดเชียงราย พร้อมส่งเสริมการพัฒนาประสิทธิภาพอาจารย์ แล้วก็กุ๊ก ให้สามารถคิดแผนมื้อของกินที่ถูกหลักโภชนาการ ครบถ้วนบริบูรณ์ นานัปการ รวมทั้งพอเพียงตามตอนวัย รวมทั้ง กรรมวิธีการดูแลผู้เรียนรายตัวให้พ้นจากภาวการณ์ทุโภชนาการ ความร่วมแรงร่วมใจคราวนี้ เนื่องจากว่าปรารถนาเกื้อหนุนให้กำเนิดกลไกการดูแลโภชนาการเด็กในพื้นที่ที่มีคุณภาพ แล้วก็มีความเกี่ยวเนื่อง เพื่อลดปริมาณเด็กทุโภชนาการที่มากขึ้น จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2563 พบว่า เด็กอายุ 6-14 ปี กว่า 2.9 ล้านคน 

รายงานการเรียน  ‘ฟู้ด ฟอร์ กู๊ด’ เติมเต็มโภชนา เด็กไทยในพื้นที่ไกลห่าง

เผชิญกับปัญหาทุโภชนาการ หรือร่างกายได้รับสารอาหารไม่เหมาะสมกับวัย เป็นสาเหตุของการเกิดสภาวะเตี้ย ซูบผอม หรืออ้วน 

สอดคล้องกับผลจากการสำรวจสภาวะโภชนาการเด็กภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ข่าวการศึกษา ครั้งที่ หรือ SEANUTS II (South East Asian Nutrition Surveys II) ที่เรียนภาวการณ์โภชนาการในเด็กอินโดนีเซีย มาเลเซีย แล้วก็ไทย กว่า 14,000 คน พบว่าตอนวัย เดือน ถึง 12 ปี มีปัญหาด้านโภชนาการ ขาดสารอาหาร น้ำหนักเกิน บางทีอาจมีผลต่อสุขภาวการณ์ แล้วก็การเจริญเติบโตโดยรวมของเด็ก นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แบงค์ยูโอบี เมืองไทย บอกว่า พวกเราตั้งใจจริงที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาด้านโภชนาการที่เกิดสังกัดเด็กไทย โดยยิ่งไปกว่านั้นเด็กจากครอบครัวยากแค้น รวมทั้งขาดช่องทาง การทำงานร่วมกับแผนการ FOOD FOR GOOD จะช่วยเติมเต็มโภชนาการของเด็กไทยให้ดีขึ้น โดยมุ่งจัดแบ่งของกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมเสริมวิชาความรู้ที่ถูก เพื่อพวกเขามีความเข้าใจ และก็เลือกกินอาหารได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งในขณะนี้ แล้วก็เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่

แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : สพฐ.สั่งย้ายครูดนตรีโหดเข้ากรุ ‘อัมพร’ ชี้ พฤติกรรมรุนแรงชัดเจน จ่อสอบวินัยร้ายแรง

สพฐ.สั่งย้ายครูดนตรีโหดเข้ากรุ ‘อัมพร’ ชี้ พฤติกรรมรุนแรงชัดเจน จ่อสอบวินัยร้ายแรง

สพฐ.สั่งย้ายครูดนตรีโหดเข้ากรุ ‘อัมพร’ ชี้ พฤติกรรมรุนแรงชัดเจน จ่อสอบวินัร้ายแรง

สพฐ.สั่งย้ายครูดนตรีโหดเข้ากรุ ‘อัมพร’ ชี้ พฤติกรรมรุนแรงชัดเจน จ่อสอบวินัยร้ายแรง

การศึกษา ความคืบหน้าหลังจากที่มีนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ส่งคลิปครูชายซึ่งสอนวิชาดนตรี ลงโทษนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นรุนแรงเกินกว่าเหตุ โดยในคลิปเห็นอย่างชัดเจนว่าได้กระชากคอเด็กนักเรียนมาตบ 2 ครั้ง ก่อนฟันศอกซ้ำไป 1 ครั้ง ท่ามกลางสายตาของนักเรียนที่ต่างตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนักเรียนที่ส่งคลิปให้สื่อมวลชนแจ้งว่าอยากให้คนที่กระทำผิดถูกลงโทษ เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และล่าสุดมีคลิปครูคนเดิมกระชากนักเรียนจนล้มหงายหลัง ใช้เท้ายันหน้า-มือผลักที่หัวนั้น เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกับผู้อำนวยการโรงเรียน โดยเท่าที่ดูจากข้อมูลและภาพที่ออกมาเบื้องต้นถือว่าวิธีการลงโทษของครูไม่ถูกต้อง ขัดต่อระเบียบการลงโทษนักเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งในการสอบข้อเท็จจริงก็จะต้องดูพฤติกรรมดังกล่าวด้วย แต่เบื้องต้นเพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความสบายใจ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สั่งการให้ครูรายดังกล่าวไปประจำยังเขตพื้นที่ต้นสังกัดแล้ว ส่วนจะมีความผิดสถานใดนั้นคงต้องรอข้อเท็จจริง ข่าวการศึกษา เพราะตนคนเดียวคงไม่สามารถบอกได้ ขั้นตอนการลงโทษทางวินัยต้องเป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนด “ภาพที่ออกมาถือว่าครูรายดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ร้ายแรง ในส่วน สพฐ.จะไม่มีการปกป้องอย่างแน่นอน ทุกอย่างว่าไปตามขั้นตอน หากผิดจริงก็ต้องตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง มีโทษถึงขั้นไล่ออก ปลดออก แต่ทุกอย่างต้องดูแรงจูงใจประกอบด้วย” นายอัมพรกล่าว นายอัมพรกล่าวต่อว่า ส่วนที่มีข้อความให้นักเรียนลบคลิปวิดีโอไม่เช่นนั้นจะหมดสิทธิสอบนั้น เรื่องจะอยู่ในชั้นการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรับฟังข้อมูลทั้งจากนักเรียน ครูและผู้อำนวยการโรงเรียนให้รอบด้าน