ทวิตเตอร์เตรียมลบบัญชีผู้ใช้งานที่ไม่เคลื่อนไหวหลายปี

สื่อสังคมออนไลน์ ทวิตเตอร์ จัดเตรียมลบบัญชีผู้ใช้งานที่ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรก็แล้วแต่มานานนับเป็นเวลาหลายปีแล้ว ตามคำประกาศของ อิลอน มัสก์ ทางทวิตเตอร์ในวันจันทร์
ทวิตเตอร์เตรียมลบบัญชีผู้ใช้งานที่ไม่เคลื่อนไหวหลายปี

ข่าว สำนักข่าวรอยเตอร์ กล่าวว่า มัสก์ ซีอีโอของทวิตเตอร์ โพสต์เพราะ ผู้ใช้งานที่ใช้แพลตฟอร์มนี้บางทีอาจเผชิญภาวการณ์ปริมาณผู้ติดตามลดน้อยลงในเร็วๆนี้ด้วย แนวนโยบายของทวิตเตอร์กล่าวว่า ผู้ใช้งานควรจะเข้าระบบบัญชีของตัวเองขั้นต่ำหนึ่งครั้งทุกๆ30 วันเพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้ถูกลบ ด้วยเหตุว่าไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ข่าวเทคโนโลยี เมื่อต้นเดือนก่อนหน้าที่ผ่านมา มัสก์ “ข่มขู่” ว่าจะชูบัญชีใช้งานทวิตเตอร์ของสื่อ National Public Radio (NPR) ให้บริษัทอื่นใช้ ข้างหลังสื่อสาธารณะที่นี้หยุดโพสต์รายละเอียดผ่านทวิตเตอร์ฟีทางการของหน่วยงานทั้งปวง 52 ฟีเพื่อคัดค้านบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ที่นี้ที่ออกมามีความคิดเห็นเป็นนัยว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีความเกี่ยวข้องกับรายละเอียดบทบรรณาธิการของสื่อที่นี้

ความปลอดภัย ‘อุปกรณ์การแพทย์’ เป็นเรื่องของชีวิตและความตาย

วันนี้ผมจะขอเอ๋ยถึงหัวข้อการรักษาความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งขอยกตัวอย่างเคสที่เกิดขึ้นที่โรงหมอแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า 

ความปลอดภัย 'อุปกรณ์การแพทย์

ข่าว มีคนป่วยเข้ามารับการดูแลรักษาด้วยอาการชักและก็อิริยาบถไม่ค่อยสู้ดีนักซึ่งทางโรงหมอได้ตรวจเช็คอาการทั้งปวงแต่ว่าก็ไม่เจอความเปลี่ยนไปจากปกติอะไร จนถึงกระอีกทั้งพยาบาลเจอรีโมทคอนโทรลที่ใช้ควบคุมตัวกระตุ้นสมองในกระเป๋าของผู้เจ็บป่วยรวมทั้งนำไปเสิร์ทในกูเกิลเพื่อค้นหาคู่มือใช้งานออนไลน์รวมทั้งพบว่า วัสดุอุปกรณ์นี้มิได้มีการเชื่อมต่อระบบแล้ว ทำให้ทางโรงหมอจำต้องใช้เวลานานถึง 13 ชั่วโมง สำหรับในการตามหาผู้ชำนาญเพื่อรีเซ็ตเครื่องใช้ไม้สอย ซึ่งแม้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีกทีในพรุ่งนี้ หมอก็ยังไม่รู้แนวทางรักษาคนเจ็บรายนี้เลย เพราะเหตุว่าไม่เคยทราบต้นเหตุที่เครื่องปฏิบัติงานไม่ดีเหมือนปกติ เนื่องจากว่าบ่อยที่อุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มนี้มีหน่วยความจำที่น้อยเกินไปหรือขาดความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัล หน่วยงานไม่ค้นหาผลกำไรอย่าง BleepDigital ข่าวเทคฌนฌลยี ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวเนื่องพิจารณาเพิ่มอีกเกี่ยวกับการเสี่ยงด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ของอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตั้งแต่ผู้ใช้งานไปจนกระทั่งเทคโนโลยีที่ฝังอยู่ภายในร่างกายรวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือด้านนอก โดยในตอน 10 ปีให้หลัง พวกเราได้มองเห็นความเจริญของเทคโนโลยีพวกนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่ๆว่าช่องโหว่ใหม่ๆก็มีเยอะขึ้นเรื่อยๆไปด้วย เทคโนโลยีด้านการแพทย์แบบใหม่ (Internet of medical things หรือ IoMT) เป็นเครื่องมือที่ถูกประยุกต์ใช้มากยิ่งขึ้นในโรงหมอแล้วก็ที่บ้าน โดยสามารถเลือกใช้ได้ทั้งยังข้างในและก็ข้างนอกร่างกายแล้วก็ยังเชื่อมต่อได้เยอะขึ้นเรื่อยทำให้ภัยรุกรามด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวกับ IoMT ได้ก่อตัวขึ้นและก็บางทีอาจมีผลเสียโดยตรงต่อร่างกายของคนไข้ ถ้าพิจารณาถึงการคุ้มครองที่ต้องเพิ่มเกี่ยวกับ IoMT แล้ว จะพบว่ามีความหวาดกลัวที่ว่าวัสดุอุปกรณ์พวกนี้อาจจะเริ่มปฏิบัติงานแตกต่างจากปกติหรือถูกแฮนั้นเกิดเรื่องจริง เนื่องจากว่ามีเหตุการคุกคามทางไซเบอร์ที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องไม้เครื่องมือ IoMT มากยิ่งขึ้น ได้ผลทำให้ควรจะมีการติดต่อประสานงานระหว่างผู้สร้างและก็รัฐบาลเพื่อหามาตรการปกป้องด้านความปลอดภัยและก็การเพิ่มความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น
 ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ควรจะได้รับการอบรมเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทางวิธีที่บางทีอาจเกิดขึ้นกับเครื่องไม้เครื่องมือ IoMT ในแต่ละรุ่นให้ได้มากที่สุด

‘ชไนเดอร์’ ดึงพลัง ‘เอไอ’ ปฏิรูปสู่โฉมใหม่ ‘โลกพลังงาน’

การเปลี่ยนระบบไฟฟ้าให้เป็นดิจิทัล เป็นการแก้ปัญหาความท้าทายของระบบไฟฟ้าในอดีต ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยเฉพาะการดาวน์ไทม์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว

เทคโนโลยี ยุคที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างก้าวกระโดด “ดิจิทัล” ถูกนำมาใช้ในการทรานส์ฟอร์มและยกระดับธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ค้าปลีกไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม หนึ่งในการเปลี่ยนผ่านที่น่าสนใจ เช่น “การบริการจัดการพลังงาน” ซึ่งทุกวันนี้โจทย์ของการทำงานนอกจากประสิทธิภาพและความคุ้มค่าแล้ว “ความยั่งยืน” เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายหลักที่ธุรกิจต้องคำนึงถึงและนำเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การเติบโต วราชัย จตุรสถาพร รองประธาน ธุรกิจ Field Services ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา ชไนเดอร์ กล่าวว่า ดิจิทัลเป็นเหมือนโลกใหม่ที่ช่วยปฏิวัติโลกเก่าให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการสร้างความยั่งยืน อีกทั้งการควบคุมด้วยดิจิทัลยังช่วยทำให้มองเห็นสถาปัตยกรรมระบบต่างๆ ในภาพรวม อย่างไรก็ดี การทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล ไม่จำเป็นต้องทำทีเดียว สามารถทำเท่าที่จำเป็นเพื่อที่ธุรกิจจะสามารถวัดความคุ้มค่าต่อการลงทุน หรือ ROI (Return on Investment) ได้ ดึง ‘เอไอ – ไอโอที’ เสริมศักยภาพ ในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ด้านการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชัน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มุ่งคิดค้นนวัตกรรมในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลในทุกแง่มุมและทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อช่วยลูกค้าลดความยุ่งยาก และลดเวลาในการทำงานซ้ำซ้อน สามารถนำเวลาที่มีค่าไปโฟกัสเรื่องที่สำคัญกว่าแทน ล่าสุด เดินหน้าช่วยภาคธุรกิจปฏิรูปและยกระดับงานบริการภาคสนามระบบไฟฟ้าสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัว “ดิจิทัล เซอร์วิส” บริการเชิงรุก วิเคราะห์ คาดการณ์ ลดดาวน์ไทม์ เน้นประสิทธิภาพและความยั่งยืน โดยมาพร้อมขุมพลังจาก “ไอโอที” และ “เอไอ” อัจฉริยะ ให้ประสิทธิภาพการดำเนินการที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น ทั้งการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฟฟ้าทั้งระบบ คาดการณ์แนวโน้มการเสื่อมสมรรถภาพของอุปกรณ์ นอกจากนี้ สามารถแจ้งเตือนความล้มเหลวของอุปกรณ์ล่วงหน้า ช่วยลดดาวน์ไทม์ ยืดอายุของอุปกรณ์ไฟฟ้า และแนะนำแผนการบำรุงรักษาได้อย่างเหมาะสม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แนวทางธุรกิจของ ชไนเดอร์ ทำตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นโกลบอลแพลตฟอร์ม ภายใต้เทคโนโลยี “EcoStruxure” ที่เป็นทั้งสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์ม ระบบเปิด ด้วยความสามารถทางด้านไอโอทีและเอไอ ทำให้บริการดิจิทัลเซอร์วิสมีความครอบคลุมที่สุด สามารถช่วยธุรกิจสร้างความยืดหยุ่น และแก้ไขปัญหาของลูกค้า รวมถึงธุรกิจลูกค้าในอนาคตได้ “การเปลี่ยนระบบไฟฟ้าให้เป็นดิจิทัล เป็นการแก้ปัญหาความท้าทายของระบบไฟฟ้าในอดีต ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยเฉพาะการดาวน์ไทม์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว

‘ชไนเดอร์’ ดึงพลัง 'เอไอ' ปฏิรูปสู่โฉมใหม่ ‘โลกพลังงาน’

เนื่องจากการเสื่อมของอุปกรณ์ที่มีอยู่ หรือจากปัจจัยสภาวะแวดล้อมต่างๆ” นอกจากนี้ เมื่อเปลี่ยนเป็นดิจิทัลแล้ว ยังทำให้สามารถเข้าถึงและมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของระบบไฟฟ้า

รวมถึงประสิทธิภาพในแบบเรียลไทม์และย้อนหลังได้ ทำให้สามารถวิเคราะห์ คาดการณ์แนวโน้มของระบบได้อย่างมั่นใจ ข่าวเทคโนโลยี ตลาดแข่งขันสูง หวังโตเท่าตัว ชไนเดอร์เผยว่า นอกเหนือจากบริการภาคสนามแบบปกติ ทางชไนเดอร์ยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลในเรื่องของการวิเคราะห์ ที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงเรื่องของความปลอดภัย ทั้งในส่วนของสินทรัพย์ต่างๆ และบุคคล ช่วยปรับเปลี่ยนจากการบำรุงรักษาตามเวลาที่กำหนด หรือแบบไทม์เบส ซึ่งต้องชัตดาวน์ระบบทั้งหมดที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ มาเป็นคอนดิชั่นเบส ทำให้เกิดการลดต้นทุนด้านการซ่อมบำรุง และต้นทุนการสูญเสียในการหยุดสายการผลิตต่างๆ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน รวมถึงสร้างความยั่งยืน “ดิจิทัลเซอร์วิสของชไนเดอร์เป็นมิติใหม่แห่งการบริการด้านการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ไม่ใช่เพียงแค่บริการภาคสนามเพียงอย่างเดียว ยังมีการผนวกบริการดิจิทัลบนแพลตฟอร์มระดับโลก พร้อมนำพลังของเทคโนโลยีไอโอทีและเอไอมาช่วยในการวิเคราะห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด” วราชัยประเมินว่า ตลาดดิจิทัลเซอร์วิสในอุตสาหกรรมบริการระบบไฟฟ้ามีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ทว่าจากการทำตลาดในไทยมากว่า 4 ปีได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น และชไนเดอร์กลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการลงทุน ช่วงสองปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถเติบโตได้ค่อนข้างเร็ว ส่วนของปี 2566 นี้หวังว่าจะสามารถเติบโตได้เป็นเท่าตัว

 แนะนำข่าวเทคโนโลยี อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : เทคโนโลยี จีเอ็ม-ฟอร์ด-กูเกิล จับมือพัฒนา ‘โรงไฟฟ้าเสมือน’

จีเอ็ม-ฟอร์ด-กูเกิล จับมือพัฒนา ‘โรงไฟฟ้าเสมือน’

บริษัทรถยนต์ เจเนรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และ ฟอร์ด จับมือกับบริษัทเทคโนโลยี กูเกิล และผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์อีกหลายแห่ง เปิดเผยโครงการจัดทำมาตรฐานสำหรับยกระดับการใช้ โรงไฟฟ้าเสมือนจริง หรือ Virtual Power Plant (VPP)

จีเอ็ม-ฟอร์ด-กูเกิล จับมือพัฒนา

ข่าว ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยผ่อนเพลาภาระการผลิตไฟฟ้าในกรณีที่ขาดแคลนปัจจัยการผลิต บริษัทพลังงานที่ไม่แสวงหาผลกำไร RMI เป็นผู้เริ่มจัดทำโครงการที่มีชื่อว่า Virtual Power Plant Partnership (VP3) ที่มีเป้าหมายจัดทำนโยบายเพื่อสนับสนุนระบบดังกล่าว โดยรวมศูนย์แหล่งพลังงานหลายพันแห่งเข้าด้วยกันซึ่งควบคุมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น เนสต์ เทอร์โมสแตท (Nest Thermostat) ของกูเกิล โครงการนี้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัยและวิธีการต่าง ๆ ในการจัดการกับปัญหาไฟตกหรือไฟดับ เช่น การเปิด-ปิดแบตเตอรีของรถยนต์ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือการเปลี่ยนระบบการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าไปเป็นแบบประหยัดพลังงานในทันที โดยต้องได้รับความยินยอมจากผู้บริโภคเสียก่อน ในช่วงที่เกิดวิกฤติคลื่นความร้อนในสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว บริษัทขายส่งไฟฟ้าในรัฐแคลิฟอร์เนีย System Operator สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาไฟดับได้ด้วยการจัดสรรไฟฟ้าทดแทนจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้ง VPP เพื่อให้สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอภายใต้ภาวะฉุกเฉิน โดยมีเทคโนโลยี Nest ของกูเกิล เป็นตัวช่วยในการจัดสรรไฟฟ้า ข่าวเทคโนโลยี โครงการโรงไฟฟ้าเสมือนจริงนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอเมริกา ด้วยการสนับสนุนภายใต้กฎหมาย Inflation Reduction Act ซึ่งผ่านรัฐสภาเมื่อปี 2021 ที่ได้มอบผลประโยชน์ทางภาษีแก่เทคโนโลยีพลังงานทางเลือกต่าง ๆ RMI คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 โรงไฟฟ้าเสมือนจริง หรือ VPP จะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าของคนอเมริกันในช่วงสูงสุดได้ราว 60 กิกะวัตต์ หรือเพียงพอป้อนความต้องการไฟฟ้าโดยเฉลี่ยของ 50 ล้านครัวเรือน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 200 กิกะวัตต์ภายในปี 2050

ใครว่า คนสูงวัย ไม่ถนัดใช้ ดิจิทัล

คำกล่าวว่า มนุษย์ลุง ป้า มักถูกมองว่า ห่างไกลจากดิจิทัลเทคโนโลยี จะหมดไป เพราะมีนวัตกรรมสุดล้ำที่ออกแบบให้คนสูงวัยมีความเป็นอยู่ที่ง่าย สะดวกสบายมากขึ้น

ใครว่า คนสูงวัย ไม่ถนัดใช้ ดิจิทัล

ข่าว ใครว่า คนสูงวัย ไม่ถนัดใช้ ดิจิทัล เพียงพูดว่า “เปิดน้ำให้หน่อย” ก๊อกน้ำก็เปิดทันที ไม่ต้องสัมผัสแต่อย่างใด หากต้องการความแรงของน้ำมากหรือน้อย ก็ส่งเสียงบอก นี่แหละ นวัตกรรมที่แสนง่าย ไม่ต้องจิ้ม กดปุ่มใดๆ ให้ยุ่งยาก ทั้งยังลดเสี่ยงติดเชื้อโรคจากการสัมผัส “ก๊อกน้ำ COTTO x ONE ที่สั่งงานด้วยเสียง” ยังเอื้อคนตาบอดใช้งานได้ด้วย ใครว่า คนสูงวัย ไม่ถนัดใช้ ดิจิทัล ไม่ง่ายเลยสำหรับผู้สูงอายุ หรือ คนป่วย ที่ต้องไปหาหมอ ต้องเสียเวลาเดินทาง นั่งรอ หากป่วยกลางดึก จะยิ่งลำบาก ร้อนใจ ทำยังไงดี แต่หลังจากนี้ ชีวิตจะง่ายสุดๆ เพราะนวัตกรรม DoCare ที่นำดิจิทัลเทคโนโลยีมาเชื่อมต่ออุปกรณ์ของผู้ป่วย เมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ เช่น หกล้ม คลื่นหัวใจ ชีพจรเต้นผิดจังหวะ ก็จะส่งสัญญาณไปยังโรงพยาบาล หรือ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยทันที แพทย์จะให้คำปรึกษา ช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีใครว่า คนสูงวัย ไม่ถนัดใช้ ดิจิทัลตัวช่วยสำหรับคนที่อยากสูดอากาศดีๆ ข่าวเทคโนโลยี แต่ไม่กล้าออกจากอาคาร กลัวเชื้อโรค พร้อมเสิร์ฟให้แล้ว ด้วยนวัตกรรม Bi-ion และได้มีการติดตั้งแล้ว ให้แขกระดับประเทศได้สูดอากาศดีๆ ในงานประชุม APEC 2022 Thailand ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ใครว่า คนสูงวัย ไม่ถนัดใช้ ดิจิทัล นอกจากตัวอย่างโซลูชันที่ผสานดิจิทัลให้เข้ากับผู้สูงวัย และคนที่ใส่ใจสุขภาพข้างต้นแล้ว ยังมีนวัตกรรมอีกเพียบ ชมได้ในงาน SCG : The Next Chapter วันนี้ถึง 16 ธันวาคม ณ เอสซีจี สำนักงานใหญ่ บางซื่อ เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่

เอ็นทีจุดพลุคลาวด์-ดาต้าเซ็นเตอร์จัดการข้อมูลส่วนบุคคล

เอ็นที ผู้นำด้านบริการโทรคมนาคมและดิจิทัลของประเทศ ยกระดับการให้บริการคลาวด์ และ ดาต้า เซ็นเตอร์ ด้วยมาตรฐาน ISO/IEC 27701:2019 เพิ่มความเชื่อมั่นด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมตอบโจทย์ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เทคโนโลยี พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที เปิดเผยว่า เอ็นที ผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งและดาต้าเซ็นเตอร์รายใหญ่ของประเทศไทย ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ISO/IEC 27701:2019 โดย บริษัท บีเอสไอ กรุ๊ป(ประเทศไทย) จำกัด สถาบันมาตรฐานอังกฤษ (The British Standards Institution-BSI) สำหรับการให้บริการคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ เอ็นที ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมและดิจิทัลคำนึงถึงการพัฒนาบริการตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่องและทันสถานการณ์ โดยปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์ทวีความรุนแรงมากขึ้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลในโลกดิจิทัล ซึ่งหากเกิดการรั่วไหลของข้อมูลดังกล่าวย่อมส่งผลเสียหายต่อบุคคลผู้ใช้บริการและกระทบต่อธุรกิจ

เอ็นทีจุดพลุคลาวด์-ดาต้าเซ็นเตอร์จัดการข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้มุ่งมั่นพัฒนาระบบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ISO/IEC 27701:2019 เพื่อดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานบนระบบ NT CLOUD และ NT DATA CENTER ซึ่งจัดเก็บข้อมูลลูกค้าองค์กรจำนวนมาก ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่มีระบบการกำหนดสิทธิการเข้าถึง

การตรวจสอบ และการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่จัดเก็บโดยเอ็นทีมีความปลอดภัย และสอดคล้องกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเอ็นทีได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27701:2019 ด้านระบบบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลใน 2 บริการ คือ บริการ NT CLOUD ซึ่งรวมถึงโครงการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) ที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการจากหน่วยงานภาครัฐ 835 หน่วยงาน และบริการ NT DATA CENTER บางรัก นนทบุรี และ ศรีราชา เอ็นที ข่าวเทคโนโลยี  ได้พัฒนามาตรฐานการให้บริการมาอย่างต่อเนื่องครอบคลุมมาตรฐานสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นในระดับสูงให้แก่ลูกค้าทั้งองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน โดยปัจจุบันบริการคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ของ NT ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 27001, ISO 20000-1, CSA-STAR และล่าสุดคือมาตรฐาน ISO 27701

คลิก !!“แอปฯ ร้านยาออนไลน์” หาหมอ อยู่บ้านก็ตรวจสุขภาพ ปรึกษาได้ทุกที่

“เทคโนโลยี” ได้เข้ามาบทบาทการใช้ชีวิตของผู้คนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การสั่งอาหาร สั่งของออนไลน์

คลิก !!“แอปฯ ร้านยาออนไลน์” หาหมอ อยู่บ้านก็ตรวจสุขภาพ ปรึกษาได้ทุกที่

เทคโนโลยี เพียงคลิกเดียวทุกคนก็จะได้สิ่งเหล่านี้ ทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น การให้บริการรักษาพยาบาลต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โรงพยาบาลต่างๆ และผู้ประกอบการภาคเอกชน ต่างเปิดบริการรักษาทางไกล สามารถสั่งซื้อและรับยารักษาโรค รวมถึงรับคำปรึกษาจากแพทย์ เภสัชกรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงการรักษาสุขภาพได้ง่ายมากขึ้น แพลตฟอร์ม สำหรับ ร้านยาและหน่วยงานต่างมีมากมายให้ผู้ใช้บริการได้เลือก ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่หน่วยงานนั้นๆ กำหนด เริ่มด้วย เพียงแค่ดาวน์โหลด แอปพลิเคชั่นร้านยากรุงเทพ และ กด “ปรึกษาเภสัชกร” ทุกคนก็สามารถปรึกษา รับคำแนะนำเรื่องสุขภาพ จากเภสัชกรร้านยากรุงเทพได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมกับบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น

• ปรึกษาและรับคำแนะนำด้านสุขภาพและการใช้ยาจากเภสัชกร ทางวิดีโอคอล โทร และ แชทสนทนา

• ค้นหาสาขาและเภสัชกรร้านยากรุงเทพใกล้บ้าน

• สินค้าหลากหลาย เช่น วิตามิน อาหารเสริม เวชภัณฑ์ และ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ กว่า 1,000 รายการ

• เลือกรับสินค้าที่สาขา หรือ บริการจัดส่งถึงบ้านได้

• สมัครสมาชิกและรับสิทธิพิเศษจากร้านยากรุงเทพ และ ประโยชน์ด้านสุขภาพ อื่นๆ

คลิก !!“แอปฯ ร้านยาออนไลน์” หาหมอ อยู่บ้านก็ตรวจสุขภาพ ปรึกษาได้ทุกที่

การปรึกษาเภสัชกรผ่านระบบ Telepharmacy ในประเทศไทย มีข้อดีหลายอย่าง สะดวก ข่าวเทคโนโลยี ช่องทางการติดต่อไม่ซับซ้อน และไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเป็นกิจวัตรประจำวันที่เภสัชประจำร้านยาต้องตอบผู้ป่วย และแนะนำลูกค้าที่แวะมาที่ร้านยา จึงสามารถตอบคำถามได้ทันทีที่ติดต่อเข้ามา โดยการสอบถามเรื่องทั่วไปในร้านขายยาจะไม่มีค่าปรึกษาอยู่แล้ว การเจ็บป่วยเล็กน้อย แบบปวดหัว ปวดศีรษะ เป็นไข้ ผื่นขึ้น นอนไม่หลับ เครียด ท้องผูก ควรปรึกษาเภสัชกรก่อน โดยจะมีการวินิจฉัยอาการเบื้องต้นและเลือกยาที่เหมาะสมในการรักษา ซึ่งจะไม่มีค่าบริการในการให้คำปรึกษา โดยสามารถปรึกษาเภสัชกร ฟรี สามารถสอบถามปัญหาสุขภาพ หรือ การใช้ยากับเภสัชกรที่มีประสบการณ์นับสิบปีแบบส่วนตัวได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

แนะนำข่าวเทคโนโลยี อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : AI หุ่นยนต์อัจฉริยะ ผ่าตัดแผลเล็กข้อเข่า

AI หุ่นยนต์อัจฉริยะ ผ่าตัดแผลเล็กข้อเข่า

AI หุ่นยนต์อัจฉริยะ ผ่าตัดแผลเล็กข้อเข่า

เทคโนโลยี28092

เทคโนโลยี การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะแบบแผลเล็ก หรือ Robotic Assisted Total Knee Arthroplasty เป็นอีกความก้าวหน้าในวงการแพทย์ยุคปัจจุบันในวันนี้

ด้วยการพัฒนาต่อยอด “AI” ปัญญาประดิษฐ์ให้สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นสามารถคิดเองได้โดยที่ไม่ต้องสอน เทคโนโลยี ที่สำคัญสิ่งที่คิดและแสดงออกมานั้นมีความเป็นเหตุเป็นผลที่แทบจะไม่มีโอกาสผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว

หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ข้อสะโพกเทียมเป็นรุ่นใหม่ที่มีข้อดีมากกว่ารุ่นเก่า โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ช่วยในการคำนวณ นพ.พิชิต กังวลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง บอกว่า เทคโนโลยี ทำให้การวางตำแหน่งของข้อเทียมได้อย่างแม่นยำถูกต้องมาก