ราคาน้ำมันวันนี้ 28 เม.ย.2566 ปรับลดกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 60 สตางค์/ลิตร

อัปเดต ราคาน้ำมันวันนี้‘ ปัจจุบัน วันที่ 28 ม.ย. 2566ในเวลา 07.00 น. จาก ปั๊มมี การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย บางจาก เชลล์ และก็ PT เช็กราคากรุ๊ปเบนซิน แก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล เช้าวันนี้เป็นยังไงบ้าง

ราคาน้ำมันวันนี้ 28 เม.ย.2566 ปรับลดกลุ่มเบนซิน

ข่าว อัปเดต ราคาน้ำมันวันนี้‘ ปัจจุบันวันที่ 28 เดือนเมษายน 2566ในเวลา 07.00 น. กรุ๊ปเบนซิน แก๊สโซฮอล์ แล้วก็น้ำมันดีเซล จาก ปั๊ม มี การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย บางจาก เชลล์ แล้วก็ PT บริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย นํ้ามันรวมทั้งกิจการค้าปลีก จำกัด (มหาชนหรือ OR รวมทั้ง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชนหรือ BCP ประกาศปรับลด ข่าวเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน‘ กรุ๊ปเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 60 เงินต่อลิตร ส่งผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป โดยราคาน้ำมันนี้ยังไม่รวมภาษีบำรุงแคว้น
ราคาน้ำมันวันนี้ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย” วันที่ 28 ม.ย. 2566
แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 35.95 บาท/ลิตร
ซูเปอร์พาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 43.44 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ E20 ราคา 33.64 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 34.09 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 35.68 บาท/ลิตร
เบนซิน 95 ราคา 43.74 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล B7 ราคา 32.94 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซลพรีเมี่ยม ราคา 42.06 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ราคา 32.94 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล ราคา 32.94 บาท/ลิตร
ราคาน้ำมันวันนี้ 28 เม.ย.2566 ปรับลดกรุ๊ปเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 60 เงิน/ลิตร

ราคาน้ำมันวันนี้ บางจาก” วันที่ 28 เดือนเมษายน 2566
แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 35.95 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ E20 ราคา 33.64 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 34.09 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 35.68 บาท/ลิตร
ไฮพรีเมียม 97 แก๊สโซฮอล์ 95++ ราคา 46.54 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล B7 ราคา 32.94 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซลพรีเมี่ยม ราคา 42.16 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ราคา 32.94 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล ราคา 32.94 บาท/ลิตร
ราคาน้ำมันวันนี้ 28 เม.ย.2566 ปรับลดกรุ๊ปเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 60 เงิน/ลิตร

ราคาน้ำมันวันนี้ เชลล์” (Shell) วันที่ 28 ม.ย. 2566
เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ E20 ราคา 34.04 บาท/ลิตร
เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 36.14 บาท/ลิตร
เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 36.44 บาท/ลิตร
เชลล์ วีเพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 47.44 บาท/ลิตร
เชลล์ น้ำมันดีเซล B20 ราคา 33.44 บาท/ลิตร
เชลล์ ฟิวเซฟ น้ำมันดีเซล ราคา 33.44 บาท/ลิตร
เชลล์ ฟิวเซฟ น้ำมันดีเซล B7 ราคา 33.44 บาท/ลิตร
เชลล์ วีเพาเวอร์ น้ำมันดีเซล ราคา 33.44 บาท/ลิตร
เชลล์ วีเพาเวอร์ น้ำมันดีเซล B7 ราคา 44.04 บาท/ลิตร
ราคาน้ำมันวันนี้ 28 เม.ย.2566 ปรับลดกรุ๊ปเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 60 เงิน/ลิตร

ราคาน้ำมันวันนี้ PT” วันที่ 28 ม.ย. 2566
แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 35.95 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ E20 ราคา 33.64 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 35.68 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล B7 ราคา 32.94 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ราคา 32.94 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล ราคา 32.94 บาท/ลิตร
เบนซิน ราคา 44.26 บาท/ลิตร

แนะนำ เศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : อนุฯ Ft ‘ลดค่าไฟ’ 4.70 บาท ชงกกพ. เคาะ 24 เม.ย.นี้

อนุฯ Ft ‘ลดค่าไฟ’ 4.70 บาท ชงกกพ. เคาะ 24 เม.ย.นี้

อนุกรรมการค่า Ft เคาะ ลดค่าไฟฟ้า” เหลือ 4.70 บาท/หน่วย ยืนตามข้อเสนอแนะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยืดหนี้สินจาก ปีเป็น ปี เดือนรีบชงกระดาน กกพ. เคาะ 24 เม.ย.นี้ เอกชน แนะ ควรจะเอาราคาจริง LNG มาคำนวจะช่วยลดในทันที 4.37 บาท

ข่าว ที่มาของข่าวจากที่ทำการคณะกรรมการควบคุมธุรกิจพลังงาน (กกพ.) บอกว่า สำหรับในการสัมมนาแผนกอนุกรรมการค่าไฟเปลี่ยนอัตโนมัติ (ค่าFt) วันที่ 21 เม.ย. 2566 พิเคราะห์เห็นดีเห็นชอบตามปรับลดค่าเอฟทีงวดใหม่ สำหรับเดือนเดือนพฤษภาคมเดือนสิงหาคม2566 จากที่กฟผ. (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเสนอขอรับภาระหน้าที่ยืดหนี้สินการจ่ายค่าไฟที่แบกภาระแทนพลเมืองไปก่อนจาก ปี เป็น ปี เดือน ทำให้ค่าไฟเฉลี่ยสำหรับเดือนเดือนพฤษภาคมสิงหาคม2566 ลดน้อยลงจาก 4.77 บาท/หน่วย เป็น 4.70 บาท/หน่วย โดยภายหลังจากนี้จะพรีเซ็นท์ไปสู่ห้องประชุมคณะกรรมการควบคุมธุรกิจพลังงาน (กกพ.) ในวันที่ 24 ม.ย. 2566 เพื่อลงความเห็นเปิดรับฟังข้อคิดเห็น 5-7 วัน รวมทั้งเสนอกระดานกกพ.ตรึกตรองเคาะราคาเพื่อประกาศใช้ถัดไป ตามแนวทางการพินิจของกกพ. ทันใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้ารอบเดือนพ.ค.แน่ๆ เพราะเหตุว่าใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้าจะเริ่มออกตั้งแต่ 10 เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
 โดยก่อนหน้าที่ผ่านมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีหนังสือการันตีจะยืดหนี้สินนั้นบอกว่า สำหรับงวดที่ 2/2566 (เดือนพฤษภาคมเดือนสิงหาคมสามารถจัดแจงด้านสภาพคล่องได้ แต่ว่าสำหรับงวด 3/2566 (เดือนกันยายนเดือนธันวาคมอาจจะมีการเกิดปัญหาสภาพคล่องไม่อาจจะยืดหนี้สินได้อีก ระบบหรือสามัญชนก็ควรต้องคืนหนี้สินแก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยหนี้สินวงเงินเต็มนั้น อยู่ที่ราวๆ 1.5 แสนล้านบาท แล้วก็มีการคืนหนี้สินในงวดที่ 1 /66 (มกราคม-เม.ย.ไปแล้ว วงเงินราว หมื่นล้านบาท นายอิศเรศ รัตดิลกในจังหวัดภูเก็ต รองประธานที่ประชุมอุตสาหกรรมที่เมืองไทย (ส.อ.ท.พูดว่า การพินิจพิเคราะห์ลดค่าFTลงมาจาก เหลือ 4.70 บาทต่อหน่วย จาก 4.77 บาทต่อหน่วย นับว่าไม่มากมาย และไม่ใช่ราคาที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกราชการคำนวณต่ำลงยิ่งกว่า 4.40 บาทต่อหน่วย 

อนุฯ Ft 'ลดค่าไฟ' 4.70 บาท

ถือได้ว่าเป็นการลดกระแสได้ระดับหนึ่ง ประกาศ กกพ. ตอนวันที่ 22 มี.ค. 2566 ที่ลงความเห็นเก็บค่าไฟเอกชนเหลือ 4.77 บาทต่อหน่วยจากกว่า บาทต่อหน่วย กลับไปเพิ่มในกรุ๊ปครอบครัวจาก 4.72 บาทต่อหน่วยเสมอกัน 

ก็เลยไม่เห็นพ้องตั้งแต่ต้น ที่จะทำให้ราษฎรตกระกำลำบากในตอนที่พลังงานโลกลดลง เพราะฉะนั้น การลดราคาลงคราวนี้เป็นการยืดหนี้สินของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อครอบครัวไม่แพงกว่าเดิม แต่ว่าสิ่งที่ตนรู้เรื่องว่าหลายๆคนต้องการรู้ว่าทำเป็นดีมากยิ่งกว่านี้ได้หรือเปล่า เนื่องจากว่าไม่มีการพินิจในเรื่องของส่วนประกอบ แม้ว่าจะใช้เวลาสำหรับเพื่อการแก้ไขปัญหา แต่ว่าสิ่งที่คือปัญหาเชิงฐานรากที่ กกราชการ เสนอมาตรการให้พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯ ช่วงวันที่ 10 เม.ย. 2566 ก่อนหน้าที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงเฉพาะค่าไฟฟ้างวดที่ มีเพียงแต่ มาตรการ เป็น 1. ยืดหนี้สินค่าไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งภาควิชาอนุฯ ได้ปฏิบัติการแล้ง รวมทั้ง 2. ควรจะพินิจพิเคราะห์ปรับแนวทางคาดคะเนราคาตันทุนเชื้อเพลิงปิโตรเลียมรวมทั้งราคา LNG ที่ใช้คำนวณเงินลงทุน ค่าไฟ โดยใช้ราคาที่สะท้อนแนวทางนำเข้า LNG ในตอน เดือนเดือนพฤษภาคมสิงหาคม 2566 แทนการใช้ข้อมูลราคาของเดือนมกราคม 2566 ซึ่งแพงที่สูงกว่าเพื่อทุเลาผลพวงราคากระแสไฟฟ้าของทุกภาคส่วนลงได้ ข่าวเศรษฐกิจ ซึ่งการนำเข้า LNG เป็นตัวสำคัญสำหรับการเอามาเป็นพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศได้แพงน้อยลงมามากมายตลอดจากเดิมเคยขึ้นไประดับ 50 ดอลลาร์ต่อล้านหน่วยความร้อนบริติช ในตอนเดือนสิงหาคม 2565 แต่ว่าเดี๋ยวนี้เหลือไม่ถึง 13 ดอลลาร์ต่อล้านหน่วยความร้อนบริติช จำนวนที่พวกเราทำโดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณมาเกื้อหนุนเมื่อคำนวณราคา LNG นำเข้าในขณะนี้จะมีผลให้ค่าไฟฟ้าเหลือไม่ถึง 4.40 บาทในทันที ถ้าหากในช่วงธรรมดาก่อนกำเนิดการทำศึกรัสเซียยูเครน ราคา LNG นำเข้าอยู่ที่ ดอลลาร์ต่อล้านหน่วยความร้อนบริติช เมื่อมีการสู้รบขยับขึ้นสูงมากมายรวมทั้งกลับมาอยู่ที่ไม่ถึง 13 ดอลลาร์ต่อล้านหน่วยความร้อนบริติชในระยะนี้ที่ราคาเฉลี่ยที่ 12 ดอลลาร์ต่อล้านหน่วยความร้อนบริติช ซึ่งภาครัฐใช้ข้อมูล LNG นำเข้าที่ 20 ดอลลาร์ต่อล้านหน่วยความร้อนบริติช เป็นผลต่าง ดอลลาร์ คิดเป็น 35% ซึ่ง LNG นำเข้ามีรูปร่างถึง 45% ของ Pool gas โดยรูปทรงปิโตรเลียมที่ 60% ด้วยเหตุผลดังกล่าว ถ้านำราคาค่าไฟฟ้า 4.77 บาท ลบส่วนต่างจะเหลือ 4.34 บาทโดยทันที

แนะนำข่าวเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ส่องรูปแบบ ‘ค่าจ้าง’ ในไทย ‘สภาพัฒน์’แนะเพิ่มค่าแรงตามทักษะ

ส่องรูปแบบ ‘ค่าจ้าง’ ในไทย ‘สภาพัฒน์’แนะเพิ่มค่าแรงตามทักษะ

การกำหนดค่าแรงที่สมควรนำมาซึ่งการมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของแรงงาน ซึ่งการกำหนดค่าแรงงานแรงงานทั้งโลกมีต้นแบบที่นานัปการในขณะที่ใช้มาตั้งแต่ในอดีตกาล รวมทั้งมีการกำหนดรูปแบบขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับในตอนนี้

ข่าว โดยในส่วนของเมืองไทยใช้แบบอย่างการกำหนดค่าแรงงานเป็นต้นแบบผสม โดยข้อมูลที่ได้รับมาจากการรายงานข่าวสภาวะสังคมไตรมาส รวมทั้งภาพรวมปี 2565 ของสภาพัฒนาการสังคมและก็เศรษฐกิจแห่งชาติ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้แบ่งแบบอย่างการกำหนดค่าแรงงานในประเทศไทยไว้เป็น แบบดังต่อไปนี้ 1. การกำหนดค่าแรงเริ้มต้น ซึ่งมีแนวความคิดว่า ค่าแรงเริ้มต้นเป็นค่าแรงที่พอเพียงสำหรับแรงงานทั่วๆไปแรกทำงาน คน ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ใด้ตามความเหมาะสมแก่มาตรฐานการครองชีพ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจรวมทั้งสังคม และก็สมควรตามความรู้ความเข้าใจของธุรกิจ โดยตอนนี้ค่าแรงงานขั้นต่ำของไทยอยู่ที่ 328 – 354 บาทต่อวันหรือเฉลี่ยที่ 337 บาทต่อวัน ซึ่งนับว่าพอเพียงต่อค่ายังชีพของแรงงาน คน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าตรึกตรองจากเส้นความอดอยาก (รายจ่ายที่จำเป็นจะต้องเบื้องต้นสำหรับการดำรงชีวิตอยู่ได้ของคนรายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคเฉลี่ย 2.การกำหนดอัตราจ้างตามมาตรฐานความสามารถ โดยมีเป้าหมายเพื่อแรงงานครึ่งหนึ่งความสามารถ แล้วก็แรงงานความสามารถได้รับค่าตอบแทนที่สมควร ดึงดูดใจให้แรงงานปรับปรุงความสามารถให้เป็นที่ยอมรับ เพิ่มหลักประกันรายได้ แล้วก็เพิ่ม ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการชิงชัยให้กับธุรกิจ ซึ่งทำให้ค่าแรงตามมาตรฐานความสามารถแรงงานก็เลยมีความนัยที่ต่างกันกับค่าแรงเริ้มต้น ใกล้เคียงกับค่าแรงเฉลี่ยของแรงานที่สำเร็จการศึกษาระดับม. ปลาย อาชีวศึกษา แล้วก็วิชาชีพชั้นสูง ที่มีค่าว่าจ้าง เฉลี่ยอยู่ที่ 12,228 บาทต่อเดือน 14,396 บาทต่อเดือน แล้วก็ 15,624 บาทต่อเดือนเป็นลำดับ แล้วก็เป็นแถวทางที่จะเกื้อหนุนแรงงานได้รับค่าแรงงานที่สูงขึ้นตามระดับความชำนาญ โดยแต่ละปีมีแรงงานเข้าทดลองมาตรฐานความสามารถแรงงานเฉลี่ย 6.2 หมื่นคน ในเวลาที่แรงานใหม่ที่มีการเรียนรู้ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ รวมทั้งต่ำลงมากยิ่งกว่า ไปสู่ตลาดแรงงงานเฉลี่ยราว 1.2 แสนคน และก็ 3.การกำหนดค่าตอบแทนโดยกลไกตลาด ซึ่งจำนวนมากจะเกิดขึ้นในกรณีที่เป็นกรุ๊ปแรงงานที่มีความชำนาญ 

ส่องรูปแบบ ค่าจ้าง ในไทย

ระดับกึ่งกลางขึ้นไป ที่ค่าแรงถูกระบุจากการเจรจาต่อรองกับนายหรือสถานประกอบการเอง โดยระดับค่าตอบแทน ต่างกันไปตามสาขาวิชาชีพอุตสาหกรรม ขนาดของสถานประกอบการ แล้วก็พื้นที่

การเพิ่มค่าตอบแทนควรจะเพิ่มตามความสามารถ ดังนี้แบบการกำหนดค่าแรงในต่างแดนบ่งชี้แนวทางการกำหนดค่าแรงว่ามีความเชื่อโยงกับความถนัดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมืองไทยบางทีอาจนำหนทางดังที่กล่าวถึงมาแล้ว มาปรับใช้ โดยกำหนดให้ค่าตอบแทนเป็นกลไกช่วยเหลือการพัฒนาความชำนาญของแรงงาน รวมทั้งช่วยสำหรับเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่ย้ำเทคโนโลยีและก็สิ่งใหม่ อย่างเช่น การช่วยสนับสนุนให้แรงงานได้รับการอบรมและก็ทดลองเพื่อ เพิ่มระดับความชำนาญในบางสาขา โดยยิ่งไปกว่านั้นแรงงานไม่มีความสามารถเพื่อแรงงานได้รับค่าตอบแทนที่มากขึ้นตามระดับความชำนาญที่สูงขึ้น
โดยความสามารถที่ใช้สำหรับเพื่อการปรับปรุงควรมีความเฉพาะ ใกล้เคียง ข่าวเศรษฐกิจ รวมทั้งมีคุณประโยชน์ต่อสมรรถนะรูปแบบการทำงานของแรงงาน รวมถึงบูรณาการหลักสูตรการฝึกอบรม และก็ทดลองสมรรถะแรงงานของแต่ละหน่วยงานที่มีการยืนยันมาตรฐานความถนัดแรงงานให้มีความเชื่อโยงกับอัตราจ้าง ยกตัวอย่างเช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันคุณสมบัติวิชาชีพ แล้วก็หน่วยงานภาคเอกชน ทั้งจึงควรรีบผลักดันให้แรงงานให้ความใส่ใจกับการทดลองความสามารถแรงงาน เพื่อได้เรื่องปรับเพิ่มค่าว่าจ้างที่สมควร ซึ่งภาครัฐบางทีอาจจะต้องกระจัดกระจายหน้าที่การทดลองไปสู่กลุ่มโครงข่ายหรือภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อการจัดสอบมีความพอเหมาะรวมทั้งการผลักดันค่าทดลองให้ราคาแพงที่ไม่สูงเกินความจำเป็น รวมทั้งการกวดจับขันสถานประกอบการให้จ่ายค่าจ้างอย่างแม่นยำ

แนะนำข่าวเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : กสิกรไทย คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 3.7% จับตาการค้าโลกไม่สดใสกดดันส่งออกไทยเสี่ยงโตต่ำคาด

กสิกรไทย คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 3.7% จับตาการค้าโลกไม่สดใสกดดันส่งออกไทยเสี่ยงโตต่ำคาด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปี 2565 ที่ผ่านมา ขยายตัวต่ำกว่าคาดที่ 1.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ทั้งปี 2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 2.6% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

กสิกรไทย คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 3.7%

ข่าว ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.2% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ตัวเลขการเติบโตจีดีพีของไทยในไตรมาส 4/2565 มีปัจจัยกดดันหลักมาจากส่งออกสินค้าที่หดตัวถึง -10.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามโมเมนตัมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง นอกจากนี้ การบริโภคภาครัฐก็หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่การลงทุนภาครัฐก็ขยายตัวต่ำกว่าคาด เนื่องจากการใช้จ่ายและลงทุนที่เกี่ยวข้องกับโควิดนั้นลดลงอย่างมาก ข่าวเศรษฐกิจ ประกอบกับอัตราการเบิกจ่ายนั้นแม้จะสูงกว่าในไตรมาสก่อนหน้า แต่ก็ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ในด้านปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2565 การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้การส่งออกในภาคบริการนั้นขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นที่ 94.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวก็ได้ส่งผลต่อเนื่องไปยังการจ้างงาน รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัวได้ดีที่ 5.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 4/2565 แม้จะชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ถึง 9.1% สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยที่ 3.7% ซึ่งสูงกว่าประมาณการของสภาพัฒน์ที่ 2.7-3.7% (ค่ากลางอยู่ที่ 3.2%) จากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงจะเป็นขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องไปในปีนี้ แม้การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจกดดันการส่งออกไทยให้หดตัวเล็กน้อยในปีนี้ อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เศรษฐกิจโลกอาจไม่ชะลอตัวลงแรงอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการเปิดประเทศของจีนคงส่งผลให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งคงส่งผลบวกต่อไปยังการค้าและเศรษฐกิจโลกโดยรวม ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้จะเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ตัวเลขตลาดแรงงานและยอดค้าปลีกล่าสุด ยังคงสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความแข็งแกร่ง ซึ่งอาจส่งผลให้การเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นล่าช้าออกไปจากเดิม

“พาณิชย์”จับมือออสเตรีย ตั้งทีมการค้า 2 ประเทศ ดันความร่วมมือ 10 ด้าน

“จุรินทร์” และรัฐมนตรีแรงงาน-เศรษฐกิจ ออสเตรีย ลงนามจัดตั้งคณะทำงานร่วมมือทางการค้าระหว่างไทย-ออสเตรีย ขับเคลื่อนการค้าใน 10 สาขา สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจร่วมกัน

เศรษฐกิจ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะทํางานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-ออสเตรีย ร่วมกับนายมาร์ทิน ค็อคเค่อร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและเศรษฐกิจของออสเตรีย โดยประเทศไทยกับออสเตรียได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงแรงงานและเศรษฐกิจของสาธารณรัฐออสเตรียกับกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย ท่ามกลางสภาพความผันผวนทางเศรษฐกิจและผลกระทบจาก โควิด-19 MOU มีผลสำคัญระหว่าง 2 ประเทศจะก่อให้เกิดความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการค้าวิชาการร่วมกัน ที่สำคัญอย่างยิ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรียทางด้านการค้าที่จะก่อให้เกิดกลไกที่เป็นรูปธรรมและเป็นทางการในการผลักดันการขยายตัวทางด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันอย่างเป็นทางการการลงนามครั้งนี้มีเป้าหมายร่วมมือที่จะขับเคลื่อนร่วมกันใน 10 สาขา 1. อุตสาหกรรมยานยนต์ 2. บริการด้านการบริหารจัดการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3. การเกษตรอินทรีย์ 4. เศรษฐกิจหมุนเวียน 5. เมืองอัจฉริยะ 6. วิสาหกิจขนาด กลาง ขนาดย่อม และรายย่อย 7. สตาร์ทอัพ 8. การพัฒนากำลังคน 9. อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และ 10.เทคโนโลยีสิ่งทอ โดยทั้ง 10 สาขานี้ ทั้ง 2 ประเทศถือว่ามีศักยภาพและทรัพยากรที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันล้วนเป็นสาขาธุรกิจแห่งอนาคตในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำในสังคมของทั้ง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดี

พาณิชย์จับมือออสเตรีย ตั้งทีมการค้า 2 ประเทศ ดันความร่วมมือ 10 ด้าน

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำงานร่วมกันทั้งในระดับรัฐต่อรัฐและเอกชนต่อเอกชนภายใต้กลไกใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นคือ คณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-ออสเตรียนี้ จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาให้ประเทศของเราเป็นทั้งพันธมิตรและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญและใกล้ชิดยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

โดยภายหลังการลงนาม MOU นายจุรินทร์ได้พานายมาร์ทิน ค็อคเค่อร์ เดิมชมบูธสินค้าจากภาคเอกชนที่นำมาจัดแสดง เช่น น้ำพริก น้ำจิ้มไก่ เครื่องปรุงรส เครื่องแกง ข้าวหอมมะลิ ผักและผลไม้จากไทย อาทิ เงาะ มะม่วงและแก้วมังกร เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2564 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับออสเตรีย มีมูลค่ารวมกันประมาณ 740 ล้านดอลลาร์เ ติดลบเล็กน้อย แต่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของการค้าระหว่างกัน 5 ปีรวมกัน ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 720 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสาธารณรัฐออสเตรียเป็นตลาดส่งออกอันดับ 56 ของไทย (อันดับที่ 13 ใน สหภาพยุโรป) โดยไทยส่งออกไปสาธารณรัฐออสเตรียเป็นมูลค่า 267.39 ล้าน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 17.55% สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ข่าวเศรษฐกิจ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า

แนะนำข่าวเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ไทยเบฟขยายตลาดแล้ว รับบาทอ่อน ฐาปน ชี้ยอดขาย

ไทยเบฟขยายตลาดแล้ว รับบาทอ่อน ฐาปน ชี้ยอดขาย

ไทยเบฟขยายตลาดแล้ว รับบาทอ่อน ฐาปน ชี้ยอดขาย

เศรษฐกิจ28092

เศรษฐกิจ ฐาปน มองยอดขายไทยเบฟสะท้อนทิศทางตลาดกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่ง แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และบาทอ่อน ประเมินภาพรวมบาทอ่อนงวดนี้ให้ประโยชน์มากกว่าโทษ เดินเครื่องเร่ง ขยายตลาดฉวยโอกาสบาทอ่อนทำส่งออกดี

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดแถลงข่าวใหญ่ประจำปี 2565 เศรษฐกิจ ระบุไทยเบฟมีเป้าหมายเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มในภูมิภาคอาเซียนที่มีขนาดตลาดถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นอันดับ 9 ของผู้นำตลาดเครื่องดื่มเอเชีย นอกจากนั้น ยังมีเป้าหมายกระจายรายได้ไปยังธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และธุรกิจในต่างประเทศ รวมไปถึงการมองการลงทุนด้านพลังงานสีเขียวด้วยการมุ่งเน้นไปยังธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์นั้น เศรษฐกิจ จะเป็นโอกาสสร้างการเติบโตให้กับไทบเบฟอีกมากเพราะฐานรายได้ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ธุรกิจแอลกอฮอล์ก็จะยังคงเป็นหลักและมีความสำคัญ รวมไปถึงระบบการกระจายสินค้า เศรษฐกิจ ซึ่งมีเป้าหมายจะปรับเปลี่ยนไปใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (อีวี) ให้ได้ในระยะแรก 30% แต่ปัจจุบันยังติดปัญหาผู้ผลิตยังไม่สามารถส่งมอบรถได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมองถึงการลงทุนสร้างสถานีบริการชาร์จแบตไฟฟ้าในอนาคตพร้อมกับนำธุรกิจร้านอาหารในเครือเช่นเคเอฟซี เศรษฐกิจ และเครือโออิชิเข้าไปต่อยอดธุรกิจ