ป้ายกำกับ: สุขภาพ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข บรรลุผลสำเร็จในการพัฒนาสินค้าของใหม่ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และก็สาธารณสุข 

ข่าว รวมทั้งพร้อมแล้วที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีชุดทดลอง DMSc-TB FastAmp (TB-LAMP) ซึ่งเป็นชุดตรวจค้นเชื้อวัณโรค แล้วก็ชุดทดลองเทสกัญ (Test Kann) ซึ่งเป็นชุดตรวจสารหาจำนวนสาร THC ในสินค้าน้ำมันกัญชารวมทั้งสารสกัดกัญชาให้กับผู้พึงพอใจนำไปผลิตเพื่อขายจำนวนหลายชิ้น สำหรับชุดทดลอง DMSc-TB FastAmp (TB-LAMP) เป็นชุดตรวจค้นเชื้อวัณโรค มีความไว ความจำเพาะสูง ใช้เวลาตรวจข้างใน 2 ชั่วโมง ใช้เครื่องควบคุมอุณหภูมิเพียงแค่นั้น สามารถอ่านผลตอบแทนด้วยตาเปล่า คุณภาพสูงยิ่งกว่าการย้อมเชื้อแล้วก็ตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ผลตรวจเทียบเคียงได้กับการเพาะเชื้อ ซึ่งใช้เวลานานกว่าจะรู้ผล ส่วนชุดทดลองเทสกัญ (Test Kann) เป็นชุดตรวจสารเตยี่ห้อไฮโดรแคนาบินอล (Tetrahydrocannabinol) หรือ THC ในสารสกัดกัญชารวมทั้งน้ำมันกัญชา ลักษณะการตรวจเป็นชุดทดลองพื้นฐาน ข่าวสุขภาพ ใช้เคล็ดลับอิมมูโนโครมาโทกราฟิ (Immunochromatography) หรือ IC ซึ่งอาศัยวิธีการจับกันระหว่างแอนติบอดีแล้วก็แอนติเจนแบบแข่ง (Competitive immunoassay) การใช้สบาย เร็วทันใจ รู้ผลข้างใน 15 นาที มีคุณภาพรวมทั้งสามารถใช้ในภาคสนามได้ มีความไว สำหรับเพื่อการวัดสาร THC ที่ความเข้มข้น 2 มก.ต่อมิลลิลิตร(mg/ml) (0.2%) การแปลผล ผลจากการบวกจะปรากฏแถบสีม่วงแดงเพียงแต่ 1 ขีด รอบๆตำแหน่ง C ที่ตลับชุดทดลอง มีความหมายว่า ในแบบอย่างที่ทดลองมี THC เกิน 0.2% ผลจากการลบจะปรากฎแถบสีม่วงแดง 2 ขีด รอบๆตำแหน่ง C รวมทั้ง T ที่ตลับชุดทดลอง แปลว่า ในแบบอย่างที่ทดลองมี THC ไม่เกิน 0.2% นพ.ศุภธุระ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยออกมาว่า การพัฒนากรรมวิธีการตรวจค้นเชื้อวัณโรครวมทั้งชุดทดลองเทสกัญ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีชุดทดลองดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ให้ผู้พอใจนำไปผลิตเพื่อขายต่อ เพื่อพสกนิกร หรือผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงง่าย สบาย

แนะนำข่าวสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ชวนนักท่องเที่ยว ‘คัด-แยก-ลด’ ป้องกันขยะล้น เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เชื้อเชิญนักเดินทางร่วมดูแลสภาพแวดล้อม ช่วยเหลือกันคัด แล้วก็ลดจำนวนขยะ ในสถานที่สำหรับท่องเที่ยวต่างๆทั้งยังสมุทร น้ำตก เทือกเขา คุ้มครองป้องกันขยะล้น เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดี

ข่าว หมอกาญจน์ชัย วัฒนายิ่งรุ่งเรืองชัย อธิบดีกรมอนามัย บอกว่า ตอนเทศกาลท่องเที่ยวราษฎรโดยมากเริ่มเดินทางไปท่องเที่ยวพักตามสถานที่ต่างๆโดยยิ่งไปกว่านั้นสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ทั้งยังทางบกแล้วก็ทางทะเล รวมทั้งสถานที่อื่นๆทำให้จำนวนขยะมากขึ้นอย่างเร็ว ทั้งยังจากนักเดินทางเอง หรือจากเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อพาร์เม้นท์ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ตลาดท้องน้ำ รวมทั้งห้องอาหาร จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า แล้วก็พืชพันธุ์ พบว่า  มีราว 1,864 ตัน เป็นขยะอินทรีย์เยอะที่สุด ปริมาณ 737.58 ตัน หรือปริมาณร้อยละ 39.56 ขยะทั่วๆไป ปริมาณ 722.26 ตัน หรือปริมาณร้อยละ 39.33 ขยะรีไซเคิล อย่างเช่น ขวดแก้ว แก้ว รวมทั้งขวดพลาสติก ปริมาณ 291.26 หรือจำนวนร้อยละ 15.62 ขยะอันตราย ปริมาณ 59.47 ตัน หรือปริมาณร้อยละ3.19 รวมทั้งขยะอื่นๆปริมาณ 42.95 ตัน หรือปริมาณร้อยละ 2.30 เมื่อแยกเป็นขยะพลาสติก ดังเช่นว่า ถุงก๊อบแก๊บหูหิ้ว ปริมาณ 812,591 ใบ แก้วพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง ปริมาณ 208,179 ใบ และก็โฟมใส่ของกิน ปริมาณ 31,301 ใบ แพทย์ทองชัย ข่าวสุขภาพ กล่าวถัดไปว่า จากข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและก็ชายฝั่งทะเลปี 2564 พบว่า ขยะหลงเหลือริมตลิ่ง สูงที่สุดจัดตามลำดับหมายถึงขวดเครื่องดื่มพลาสติก ถุงก๊อบแก๊บ เศษโฟม ขวดเครื่องดื่ม แก้ว ถุงก๊อปแก๊ป ถุงของกิน เศษพลาสติก เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องเพชรพลอย แว่น รวมทั้งสร้อยคอ กล่องของกิน กล่องโฟม และก็กระป๋องเครื่องดื่ม คิดเป็นปริมาณร้อยละ 73 ของขยะทั้งปวง ที่เหลือเป็นขยะชนิดอื่นๆจำนวนร้อยละ 27 ยิ่งไปกว่านี้ เมืองไทยยังติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงสมุทรสูงที่สุดในโลก โดยมีจำนวนมากถึง 22.8 ล้านโล ซึ่งทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อธรรมชาติ อาทิเช่น ชายหาด แนวปะการัง ทั้งยัง ขยะบางจำพวกยังเป็นพิษต่อสภาพแวดล้อมหรือมีผลต่อระบบนิเวศรวมทั้งห่วงโซ่ของกิน ได้แก่ โฟม พลาสติก เมื่อสัตว์รับประทานเข้าไป จะมีอันตรายและก็ตายสุดท้าย

แนะนำข่าวสุขภาพอ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : รณรงค์เด็กไทยรับวัคซีนพื้นฐานให้ครบ สร้างภูมิปฐมวัยทุกช่วงวัยสุขภาพดี

นพ.โอภาสพูดว่า ตอนการระบาดของโรควัววิด-19 ทำให้เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี กว่าจำนวนร้อยละ 20 ยังมิได้รับวัคซีนเบื้องต้น โดยเด็ก 1 ปีแรกได้รับจำนวนร้อยละ 90 

ข่าว ส่วนเด็กอายุ 2-5 ปี อัตราการรับวัคซีนรากฐานจะลดลงเรื่อยระดับ จำนวนร้อยละ 50-70 โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนคุ้มครองปกป้องตับอักเสบบี ฝึก ในพื้นที่จังหวัดชายแดนรวมทั้งภาคใต้ ปีนี้จะรีบการให้วัคซีนกับเด็กในกรุ๊ปที่ตกหล่น อาทิเช่น วัคซีนปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูกรวมทั้งวัคซีนเบื้องต้นตามช่วงอายุ ฯลฯแล้วก็วัคซีนในคนแก่เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ โรคบาดทะยัก ฯลฯ ส่วนมูลเหตุที่ผู้ดูแลนำเด็กอายุ 2-5 ปี รับวัคซีนฐานรากลดลงเนื่องจากบางโรคเมืองไทยมีการฉีดยามาตรงเวลานับเป็นเวลาหลายปี ทำให้อัตราการเกิดโรคต่ำลง แม้กระนั้นยังมีการเสี่ยงสำหรับเด็กที่เกิดใหม่ ดังเช่น อเมริกามิได้ฉีดยาฝึกมานานแล้ว เด็กก็ไม่มีภูมิต้านทาน เมื่อมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยฝึกเข้าประเทศก็มีการระบาดฯลฯ ฉะนั้น ข่าวสุขภาพ การอาจภูมิคุ้มกันเอาไว้ภายในประชากรยังมีความจำเป็นถึงแม้โรคจะลดลงและก็ตาม ด้าน นพ.ธเรศพูดว่า วัคซีนในเด็กมี 11 ประเภท ปกป้อง 13 โรคในเด็กในตอนอาทิตย์ท้ายที่สุดของเดือน เม.ย.ของทุกปี องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นอาทิตย์เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคสากลมีจุดประสงค์เพื่อเด็กคนแก่และก็ชุมชนได้รับการคุ้มครองป้องกันจากโรคที่ปกป้องได้ด้วยวัคซีน รวมทั้งรณรงค์ให้กรุ๊ปเด็กได้รับการฉีดยาครบตามเกณฑ์ ปีนี้จะเร่งรัดการฉีดยาในเด็กให้ได้ครบตามเกณฑ์รวมทั้งเด็กผู้หญิงอายุ 12-15 ปีที่ยังมิได้ฉีดยา HPV ตามสิทธิประโยชน์ ในเวลาที่ นพ.ธงชัยบอกว่า การผลิตเสริมภูมิต้านทานโรคเป็นหัวใจสำคัญช่วยสร้างอนาคตเด็กไทยให้แข็งแรง มีสถาบันเด็กฯเป็นสถานพยาบาลเด็กดีต้นแบบช่วยโฆษณาเชิญให้บิดามารดา ผู้ดูแลรีบพาลูกหลานเข้ารับการฉีดยาให้ครบตามเกณฑ์ โดยที่จัดบริการฉีดยาในกลุ่มเป้าหมายเด็กทั้งยังฐานรากและก็วัคซีนโอกาส เพื่อเด็กมีสุขภาพแข็งแรงแล้วก็กำเนิดภูมิต้านทานกลุ่ม.

แนะนำข่าวสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : กรมอนามัย เตือนฤดูร้อนปีนี้หนักกว่าปี 65 คาดสูงถึง 43 องศา

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข แนะให้ประชากรปกป้องตัวเองจากความร้อน เนื่องจากว่าหน้าร้อนปีนี้หนักกว่าปี 65 คาดมากถึง 43 องศา อันตรายชี้กรุ๊ปเสี่ยงคุ้มครองปกป้อง และก็ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายจัดการร้อน

ข่าว นพ.กาญจน์ชัย วัฒนายิ่งรุ่งโรจน์ชัย อธิบดีกรมอนามัย พูดว่า กรมอนามัยให้ความเอาใจใส่กับการดูแลและก็คุ้มครองป้องกันสุขภาพของพสกนิกร ก็เลยร่วมกับอต.จัดการเฝ้าระวัง และก็ติดต่อเตือนภัย ด้านของสุขภาพในฤดูร้อน ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ก่อนหน้านี้ แล้วก็เฝ้าระวังอาการและก็ความประพฤติปฏิบัติการปกป้องผลพวงต่อร่างกายจากความร้อนด้วยอนามัยโพล เหตุเพราะลักษณะอากาศร้อนจะทำให้กำเนิดลักษณะการเจ็บเจ็บป่วยจากความร้อนตั้งแต่อาการน้อย อย่างเช่น ปวดหัว เวียนหัว เป็นตะคิวจากความร้อน มีผื่นแดงตามผิวหนัง หรืออาจมีอาการร้ายแรงจนกระทั่งเป็นโรคฮีตสโตรก ซึ่งแม้มิได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นในทันทีอาจจะส่งผลให้เสียชีวิตได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุ๊ปเสี่ยง ได้แก่ กรุ๊ปเด็กตัวเล็กๆ คนสูงอายุหญิงตั้งท้อง และก็ผู้มีโรคประจำตัว รวมทั้งกลุ่มอาชีพที่จำต้องทำงานมากที่โล่งแจ้ง อย่างเช่น การก่อสร้างเกษตรกร กรมอนามัย ข่าวสุขภาพ ก็เลยขอเสนอแนะให้สามัญชนปกป้องตัวเองจากความร้อน ดังเช่นว่า กินน้ำสะอาดเสมอๆโดยไม่ต้องคอยหิวน้ำ เลี่ยงวิธีการทำกิจกรรมที่โล่งแจ้งในกลางวันหรือตอนที่มีสภาพภูมิอากาศร้อนมากใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศเจริญ ใส่หมวกปีกกว้าง แว่นตากันแดด แล้วก็ทาโลชั่นสำหรับกันแสงแดดทุกคราวเมื่อมีความสำคัญจำเป็นต้องทำกิจกรรมที่โล่งแจ้ง และก็เลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และก็แอลกอฮอล์ดังนี้ ถ้าอุณหภูมิสูงสุดขึ้นไปที่ 43 องศาเซลเซียสควรจะงดเว้นทำกิจกรรมที่โล่งแจ้ง แล้วก็หมั่นพิจารณาอาการเสี่ยงจากโรคฮีตสโตรก เช่น เหงื่อไม่ออก งงมึนหัว ตัวร้อนมาก ผิวหนังเป็นสีแดงแล้วก็แห้ง

ขณะนี้กำลังมีความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ในจีน หลังจากทางการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด

ข่าว ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า โรงพยาบาลทั่วประเทศกำลังเผชิญคลื่นคนไข้จากการระบาดระลอกใหม่ จีนมีผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตจากโควิดเท่าใด
ข้อมูลจากทางการระบุว่าจีนมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในเดือน ธ.ค.จำนวน 13 คน อย่างไรก็ตาม จีนมีหลักเกณฑ์ยืนยันการเสียชีวิตจากโควิดที่ค่อนข้างจำกัด โดยกำหนดเฉพาะผู้ที่เสียชีวิตโดยตรงจากความเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ไม่รวมถึงการเสียชีวิตที่เป็นผลข้างเคียงจากโควิด นอกจากนี้ วิธีการนับจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดยังไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ทำให้ตัวเลขนี้ต่ำกว่าหลายประเทศมาก ปัจจุบันจีนได้ยกเลิกการตรวจคัดกรองโรคประชาชนเป็นวงกว้างแล้ว และบันทึกตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการจากการตรวจที่สถานพยาบาลเท่านั้น แต่ไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลของผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ข่าวสุขภาพ ซึ่งตรวจพบเชื้อจากชุดตรวจด้วยตนเอง ข้อมูลจากทางการระบุว่าจีนมีผู้ติดเชื้อวันละ 5,000 คน Airfinity บริษัทวิจัยในสหราชอาณาจักรระบุว่า ผลการประเมินด้วยแบบจำลองของบริษัทบ่งชี้ว่าในเดือน ม.ค.จีนอาจมีผู้ติดเชื้อมากถึงวันละ 3 ล้านคน โรงพยาบาลจีนเผชิญแรงกดดันเพียงใด แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อของทางการจะต่ำ แต่ WHO เตือนว่าระบบสาธารณสุขของจีนกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากคลื่นผู้ป่วยที่ถาโถมเข้ามา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โรงพยาบาลจีนต้องรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา โดยคลิปวิดีโอและภาพถ่ายเผยให้เห็นคนจำนวนมากเข้าคิวรับบริการที่คลินิกต่าง ๆ และภาพคนไข้บนเตียงผู้ป่วยในห้องรอเรียกอันแออัดของโรงพยาบาล

กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่าการเกิดโรคเบาหวานในมนุษย์เงินเดือนอยู่ใกล้ตัวเป็นอย่างมาก ทั้งการทานของหวานๆ ขาดการออกกำลังกาย ไม่ควบคุมน้ำหนัก และหากป่วยแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่สภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ก่อนที่จะสายเกินไป ควรเริ่มใส่ใจในการดูแลสุขภาพให้มากขึ้น

สุขภาพ นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เป็นห่วงคนทำงานหนักเกินไป เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน สาเหตุที่เห็นได้ชัดคือพฤติกรรมการรับประทานอาหารของหวาน ของมัน ของทอด โดยเฉพาะเมื่อทำงานหนัก เกิดความเครียดร่างกายต้องการของหวานเติมเต็ม เพราะว่าสามารถบรรเทาความเครียดได้ ของหวานที่มีน้ำตาลสูงจะสามารถช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีน ที่จะหลั่งออกมาในเวลารู้สึกเครียด เมื่อคุณเครียดมากจึงทานมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นแถมยังทำลายสุขภาพเป็นอย่างมากนายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่าโรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ในกระแสเลือดมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ อันเนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือประสิทธิภาพในการทำงานลดลง หากปล่อยไว้เป็นเวลานานก็จะทำให้ร่างกายเกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ ได้ง่าย อาทิ ตา ไต รวมไปถึงระบบประสาท โรคเบาหวานมีหลายประเภท สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ เบาหวานประเภทที่ 1.เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ 2. เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือเกิดภาวการณ์ดื้ออินซูลิน 3.เบาหวานขณะตั้งครรภ์ซึ่งเป็นโรคเบาหวานที่พัฒนาขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน โดยที่ผู้ป่วยไม่เคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อนสำหรับอาการของโรคเบาหวาน ได้แก่ รู้สึกหิวบ่อย กระหายน้ำ ปัสสาวะมีปริมาณมากและบ่อย เหนื่อย อ่อนเพลีย ผิวแห้งเกิดอาการคันบริเวณผิวหนัง ตาแห้ง มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ ข่าวสุขภาพ โดยไม่ทราบสาเหตุ หากมีอาการเหล่านี้ บวกกับพฤติกรรมในการทานอาหารที่ไม่ค่อยระวังเรื่องแป้ง และน้ำตาล คุณอาจสันนิษฐานได้ว่ากำลังมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้สูง เพราะฉะนั้นควรรีบพบแพทย์เพื่อการตรวจที่ละเอียด และทำการรักษาต่อไปสิ่งสำคัญของการป้องกันโรคเบาหวานทุกชนิด คือ ต้องคอยหมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลให้อยู่เกณฑ์ปกติ เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน มีกากใยสูง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พบแพทย์ตามนัด เพื่อให้ท่านมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

สปสช.ร่วมกับสภาเภสัชกรรมเพิ่มทางเลือกใหม่ดูแลผู้มีสิทธิบัตรทอง เปิดบริการเภสัชกรรมปฐมภูมิที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ

สุขภาพ ดูแลผู้มีสิทธิบัตรทองกรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย ครอบคลุมบริการ 16 กลุ่มอาการ พร้อมให้คำปรึกษา รับยาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมเริ่มให้บริการเร็วๆ นี้ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เภสัชกรเป็นหนึ่งในผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ที่มีบทบาทในการร่วมดูแลและช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้ โดยเภสัชกรส่วนหนึ่งทำหน้าที่ประจำอยู่ในร้านยาที่กระจายอยู่ในชุมชนพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ด้วยระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่ครอบคลุมดูแลการรักษาพยาบาลคนไทย 48 ล้านคน และครอบคลุมบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคคนไทยทุกคนหรือทุกสิทธิการรักษาทั่วประเทศ ที่ผ่านมา สปสช.จึงให้ความสำคัญต่อความร่วมมือกับทุกวิชาชีพด้านสุขภาพ รวมถึงเภสัชกรร้านยา เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิได้รับบริการสิทธิประโยชน์บัตรทอง 30 บาท ได้อย่างสะดวก ทั่วถึง มีคุณภาพและมีมาตรฐานบริการตามบริบทของแต่ละวิชาชีพ สำหรับร้านยาชุมชนอบอุ่น เป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) ที่ร่วมเป็นหน่วยบริการที่รับส่งต่อเฉพาะด้านเวชกรรมในระบบบัตรทอง 30 บาท ตามมาตรา 3 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ตามที่บอร์ด สปสช. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 และในปีงบประมาณ 2566 นี้ สปสช.ได้ร่วมกับสภาเภสัชกรรมขยายการให้บริการบัตรทอง 30 บาท ที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นเพิ่มเติม โดยเพิ่มบริการเภสัชกรรมปฐมภูมิเพื่อดูแลประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท ในกรณีที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือ Common Illness นพ.จเด็จ กล่าวว่า บริการเภสัชกรรมปฐมภูมินี้ จะครอบคลุมการดูแลภาวะเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการที่เป็นไปตามแนวทางและมาตรฐานการให้บริการเภสัชกรรมปฐมภูมิโดยสภาเภสัชกรรม ได้แก่ อาการปวดหัว เวียนหัว ปวดข้อ เจ็บกล้ามเนื้อ ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก ถ่ายปัสสาวะขัด ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะเจ็บ ตกขาวผิดปกติ อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน บาดแผล ความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตา และความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับหู พร้อมติดตามอาการหลังรับยา 3 วัน ซึ่งประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจาก สปสช. ได้สนับสนุนการจ่ายชดเชยให้ร้านยา ทั้งค่าบริการให้คำปรึกษาด้านเภสัชกรรม ค่ายาและเวชภัณฑ์ และค่าติดตามอาการและผลการดูแล โดยเหมาจ่ายในอัตรา 180 บาทต่อครั้ง

“บริการเภสัชกรรมปฐมภูมินี้คาดว่าระบบจะมีความพร้อมและให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ โดย สปสช.จะประกาศและแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

โดยร้านยาชุมชนอบอุ่นที่ร่วมให้บริการ จะต้องผ่านการอบรมและควบคุมโดยสภาเภสัชกรรม ซึ่งขณะนี้มีจำนวน ข่าวสุขภาพ กว่า 500 แห่งแล้ว สำหรับขั้นตอนการเข้ารับบริการ มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ 1.คนไข้ติดต่อไปยัง สปสช. ผ่านสายด่วน สปสช. 1330 จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำให้รับบริการที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นใกล้บ้าน หรือ 2.ดูรายชื่อร้านยาใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ สปสช. www.nhso.go.th หรือสังเกตสติกเกอร์ติดหน้าร้านยา ภายใต้ชื่อ ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย หลังจากนั้นเมื่อผู้ป่วยมาที่ร้านยา เภสัชกรจะคัดกรองสิทธิคนไข้ว่าจะสามารถรับบริการตามสิทธิบัตรทองได้หรือไม่ หากมีสิทธิก็รับการดูแลโดยเภสัชกร ซึ่งจะให้คำแนะนำและให้ยารักษาตามอาการ หรือแนะนำให้พบแพทย์ในกรณีที่มีอาการที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ กรณีที่รับยาจากร้านยาแล้ว เภสัชกรจะติดตามอาการของผู้ป่วยในวันที่ 3 ของการจ่ายยา หากอาการดีขึ้นก็จะสิ้นสุดการดูแล กรณีอาการแย่ลงหรือมีการเปลี่ยนแปลงก็จะมีระบบการจัดการเพื่อส่งต่อเข้าสู่การรักษาต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว นพ.จเด็จ กล่าวว่า ด้วยบริการนี้เชื่อมั่นว่า นอกจากจะลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการปฐมภูมิให้กับประชาชนในกรณีที่เจ็บป่วยเล็กน้อยแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการแบบใกล้บ้านใกล้ใจ ขณะเดียวกันยังช่วยลดความแออัดในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล นับเป็นอีกนวัตกรรมระบบบริการสุขภาพที่ สปสช. ได้พัฒนาโดยความร่วมมือจากสภาเภสัชกรรม “มันน่าเศร้ามากที่เราบอกคนไข้ว่าให้พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย ในขณะที่เรายังไม่มีเวลาจะทำสิ่งเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ” ข้อความบางส่วนที่ workpointTODAY ได้รับฟังจากการสะท้อนปัญหาของบุคลากรทางการแพทย์จากคุณหมอแผนกอายุรกรรมท่านหนึ่ง ที่เดินทางเข้าร่วมกับคณะกรรมาธิการแรงงาน วุฒิสภา ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหากำหนดชั่วโมงการทำงานของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ กับ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

แนะนำข่าวสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : มีวิธีดูแลสุขภาพใจในช่วง COVID-19